2 ธ.ค.2563 วันนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัย กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ ม. 170 วรรคสาม ประกอบม. 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ ม.170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบม.160 (5) และม.170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบม.186 วรรคหนึ่ง และม.184 วรรคหนึ่ง (3) หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า การพักอาศัยใน "บ้านพักรับรอง" ที่ตั้งอยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถ.วิภาวดีรังสิต ของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เมื่อปี 2553 ถึงปัจจุบัน ไม่ทำให้ผู้ถูกร้อง (พล.อ.ประยุทธ์) ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีเฉพาะตัว เนื่องจากเป็นไปตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรอง พ.ศ. 2548 โดยที่กองทัพบก (ทบ.) ได้สนับสนุนงบประมาณค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำให้ ซึ่งเป็นระเบียบที่ออกมาก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.
นายกฯ เป็นตำแหน่งสำคัญ นอกจากเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังเป็นผู้นำประเทศ ความปลอดภัยของนายกฯ และครอบครัวมีความสำคัญ รัฐมีหน้าที่จัดการดูแลให้ความปลอดภัยตามความเหมาะสมแก่สภาพการณ์ การจัดบ้านพักรับรองที่ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว พร้อมทั้งสุขภาพภาย ใจในการปฏิบัติหน้าที่จึงล้วนเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม จึงมีความจำเป็นจัดที่พำนักแก่ผู้นำประเทศในขณะดำรงตำแหน่ง ขณะที่บ้านพิษณุโลกยังไม่พร้อมใช้งาน
การที่กองทัพบกจัดให้พัก และสนับสนุค่าไฟ น้ำ เป็นไปตามระเบียบ ทบ. มิได้เป็นการกระทำที่ทำให้ผู้ถูกร้อง(พล.อ.ประยุทธ์)ได้รับเงินหรือประโยชน์ใดๆ จากกองทัพบกที่เป็นหน่วยงานราชการเป็นพิเศษ ส่วนปมมาตรฐานจริยธรรม ตามระเบียบกองทัพบกไม่ถือว่าเป็นการถือประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประเทศ ไม่แสวงหาประโยชน์มิชอบแก่ตนเอง ไม่เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันจะกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ขัดผลประโยชน์ส่วนตนกับส่วนรวมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่เป็นการรับที่มีบทบัญญัติให้รับได้
ศาลรัฐธรรมนูญจึงเห็นว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัว และไม่ขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น