ได้กลิ่นรัฐประหาร โชย !!! จากทหารพม่า (มีคลิป) - ข่าวออนไลน์ ข่าวด่วน ข่าววันนี้ การเมือง บันเทิง ข่าวอาชญากรรม SBCT

Breaking

Post Top Ad

rTr0df.jpg

Post Top Ad

rTnhMg.jpg

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564

ได้กลิ่นรัฐประหาร โชย !!! จากทหารพม่า (มีคลิป)

         มื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2564 เพจรักเชียงตุงได้โพสต์ภาพข้อความว่า ข่าวลือหนาหู ทหารพม่าเอารถถังออกมาเต็มถนนเมืองหลวงเต็มไปหมด เตรียมยึดอำนาจนางอองซานซูจี หลังจากไม่พอใจผลการเลื่อกตั้งที่นางอองซานซูจีชนะการเลื่อกตั้งพรรคทหารแบบถล่มทลาย หวังว่าคงจะไม่ยึดอำนาจจริงนะครับ ไม่งั้นประเทศเมียนมาคงกลับไปลำบากเหมือนเดิมอีกแน่ๆ 

ขณะที่่เพจ Know Shan State ได้โพสต์ภาพข้อความว่ากลุ่มผู้สนับสนุนพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) หรือพรรคทหารพม่า จำนวนมากรวมตัวบนถนนทางเข้าสำนักงานศาลฏีกา กรุงเนปดอว์ เมียนมา ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังตำรวจพร้อมใช้เครื่องกีดขวางปิดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในบริเวณศาลฏีกา ที่กำลังพิจารณากรณีข้อร้องเรียนว่า มีการโกงการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมา เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่มีนางอ่องซาน ซูจี เป็นผู้นำ ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ล่าสุดการพิจารณากรณีข้อร้องเรียนโกงการเลือกตั้ง ยังไม่แล้วเสร็จ

ขณะเดียวกันคณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมา ได้ออกแถลงการณ์ 6 หน้ากระดาษ ยืนยัน ว่าความผิดปกติของบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการโกงการเลือกตั้งตามที่ถูกกล่าวหา และคณะผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง ได้รับรองเรื่องความโปร่งใสก่อนจัดการเลือกตั้งไปแล้ว

แถลงการณ์ ระบุอีกว่า กกต. ได้ทำการสอบสวนข้อร้องเรียน 287 ข้อไปแล้ว และพบรายชื่อซ้ำซ้อนเกิดขึ้นในบางกรณีเท่านั้น

เป็นที่น่าสังเกตว่า แถลงการณ์ ของ กกต.เมียนมา ออกหลังจาก พลตรี ซอ มิน ตุน โฆษกกองทัพเมียนมา เรียกร้องให้มีการสอบสวนการโกงรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 8,600,000 รายชื่อ พร้อมเตือนว่ากองทัพอาจต้องแสดงบทบาทหากไม่ได้รับการตอบสนอง  รวมถึง พลเอก มินอ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้ความรู้สึกในการบรรยายให้นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันประเทศว่า ในเมื่อไม่ปฏิบัติตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ ก็น่าจะยกเลิกรัฐธรรมนูญไปเลย

วันเดียวกัน องค์การสหประชาชาติ หรือ UN และ สหภาพยุโรป หรือ EU ได้ออกแถลงการณ์ สนับสนุนการเปลี่ยนถ่ายการปกครองในเมียนมา ตามระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย

ด้านนายยาน วิน โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี ออกมาโต้กองทัพเมียนมาว่า ข้อกล่าวหาพรรค NLDF โกงการเลือกตั้งไม่เป็นความจริง และความผิดปกติที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้ง 

ผศ.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยสาเหตุที่การเมืองเมียนมา ระอุในขณะนี้ เนื่องจาก กกต.เมียนมา ขาดความน่าเชื่อถือ ในสายตาของกองทัพ และกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค USDP หลังเร่งรีบประกาศผลการเลือกตั้ง ทั้งที่หลายอย่างยังไม่พร้อม แม้ถูกทักท้วงจากกองทัพ รวมถึงทูตประเทศตะวันตกหลายประเทศ ออกรับรองผลการเลือกตั้ง 

และที่สำคัญพรรค NLD ในสมัยที่ผ่านมา ไม่เคยเปิดใช้สภาความมั่งคงซึ่งเป็นการประชุมระหว่ารัฐบาลและกองทัพ แม้กองทัพจะเสนอให้เปิดสภาความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องชาติพันธ์โรฮินยา ทำให้เกิดความห่างเหินและไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของ 2 ฝ่าย

และที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การทำสัญาหยุดยิงเพื่อเจรจาทางการเมืองระหว่างชาติพันธ์กับรัฐบาลและกองทัพ จะยังคงมีอยู่หรือไม่ หากยังคงมีอยู่จะเป็นแบบใด รวมทั้งชาติพันธ์จะวางตัวกับ พรรค NLD และ กองทัพเมียนมา อย่างไร 



สื่อต่างชาติตีข่าวกลิ่นรัฐประหารโชย

ขณะที่เว็บไซต์ แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานถึงสถานการณ์การเมืองในเมียนมา ว่ากำลังเกิดความกังวลหวั่นเกรง ทหารอาจก่อการปฏิวัติ ขณะที่สมาชิกรัฐสภาชุดใหม่มีกำหนดจะประชุมสภาในวันทื่ 1 กุมภาพันธ์ เนื่องจากขณะนี้ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย กับกองทัพ กำลังเพิ่มขึ้น ขณะที่กองทัพได้กล่าวหาว่าการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ที่มีขึ้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีการโกงเลือกตั้ง
          
แชนแนลนิวส์เอเชีย ชี้ว่า กองทัพเมียนมามีท่าทีเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจก่อรัฐประหารหากรัฐไม่มีการชี้แจงเกี่ยวกับข้อร้องเรียนมีการโกงเลือกตั้ง พร้อมกันนั้นโฆษกกองทัพเมียนมาก็ปฏิเสธที่จะตัดความเป็นไปได้ที่กองทัพอาจก่อรัฐประหาร ในขณะที่คณะกรรมการเลือกตั้งของเมียนมาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของกองทัพ
          
นอกจากนั้น พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย นายทหารที่ทรงอำนาจมากที่สุดในเมียนมา ยังกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ถึงความเป็นได้เกี่ยวกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญของประเทศ หากไม่มีการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับในรัฐธรรมนูญ
          
ทั้งนี้ พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ภายใต้การนำของ นางออง ซาน ซูจี คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเป็นครั้งที่ 2นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งทั่วไปตามระบอบประชาธิปไตย เป็นครั้งที่ 2 หลังจากมีการเลือกตั้งทั่วไปในเมียนมาครั้งแรกเมื่อ 7 พ.ย.2553 จนถือเป็นการสิ้นสุดการปกครองแบบเผด็จการทางทหารที่ดำเนินมายาวนานนับ 20 ปี 

ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ปีที่แล้วซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดีของอองซานซูจีชนะการเลือกตั้งและได้ที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้น ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลพลเรือนและกองทัพเมียนมาก็เกิดขึ้น
          
กองทัพไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าเกิดการโกงการเลือกตั้ง และประกาศว่าจะเคลื่อนไหวหากข้อร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งยืนยันแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งล่าสุดโปร่งใส
          
อีกทั้งโฆษกของกองทัพยังไม่ยอมยืนยันว่าทหารจะไม่ทำรัฐประหาร ขณะที่ มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพเมียนมายังเสนอให้ล้มรัฐธรรมนูญ จนเกิดความวิตกว่ากองทัพจะทำรัฐประหาร
          
ล่าสุด อันโตนิโอ กูเตร์เรส แถลงการณ์ว่า กำลังจับตาดูสถานการณ์ในเมียนมาด้วยความกังวลอย่างยิ่ง และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายงดเว้นการกระทำใดๆ ที่จะเป็นการยั่วยุปลุกปั่น นำคนออกมาประท้วง ยึดมั่นต่อบรรทัดฐานประชาธิปไตย และเคารพผลการเลือกตั้ง
          
ขณะเดียวกัน สถานทูตประเทศตะวันตกหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา สหภาพยุโรป และสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้กองทัพและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยึดมั่นต่อบรรทัดฐานประชาธิปไตย ขอคัดค้านความพยายามใดๆ ในการเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งหรือขัดขวางการเปลี่ยนถ่ายประชาธิปไตยในเมียนมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

rTnhMg.jpg